ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เกียรติกล่าวคำปราศรัยทางการเมือง เรื่อง ให้เกียรติกล่าวคำปราศรัยทางการเมือง เรื่อง ทำการเมืองให้สุจริต ในโครงการสัมมนาเครือข่ายประชาชนปฏิรูปการเมือง ปี 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
วันอังคารที่ 8 มีนาคม 2565 ณ เลขที่ 183 ถ.วิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เกียรติกล่าวคำปราศรัยทางการเมือง เรื่อง "ทำการเมืองให้สุจริต" ในโครงการสัมมนาเครือข่ายประชาชนปฏิรูปการเมือง ปี 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จัดโดยคณะกมธ.การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ในการนี้นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร่วมในการดังกล่าว โดยนายชวน หลีกภัย ได้กล่าวคำปราศรัยทางการเมืองเกี่ยวกับ “ทำการเมืองให้สุจริต" ว่าการเมืองไทยยังคงมีลักษณะที่เป็นวัฎจักรของการมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสลับกับรัฏฐาธิปัตย์ที่มาจากการยึดอำนาจปัญหาที่เป็นรากเหงาสำคัญประการหนึ่งของการเมืองไทย คือ การทุจริตคอร์รัปชั่นปัญหานี้มักจะถูกใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจโดยคณะทหาร และยังเป็นสาเหตุทำให้ประเทศไทยต้องหยุดชะงัก สูญเสียการขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาก้าวหน้าและทำให้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและเป็นธรรม ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่ารากใหญ่ของปัญหาคอร์รัปชั่น คือ การเมืองที่ไม่สุจริต นั่นคือ การที่นักการเมืองที่ขึ้นมา มีอำนาจอย่างไม่สุจริตเข้ามา "ถอนทุน" ที่ได้ลงไป เช่น ในการซื้อเสียงเลือกตั้งหรือซื้อตัวนักการเมืองด้วยกันเอง ในฐานะที่ผมอยู่บนเส้นทางการเมืองมานานเคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ จึงได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของนักการเมืองจากในอดีตสิ่งที่น่าเป็นห่วงทางการเมือง คือ การทำการเมืองแบบทุจริต โดยเฉพาะในลักษณะของ "ธุรกิจการเมือง" คือ การใช้เงินปูทางขึ้นมาสู่อำนาจ เช่น การโกงการเลือกตั้ง การซื้อเสียงหรือแม้กระทั่งซื้อพรรคการเมืองเพื่อผูกขาด เป็นต้น โดยหากนักการเมืองใช้เงินปูทางเพื่อเข้ามามีอำนาจดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการทุจริตอย่างหนึ่งแล้ว สิ่งที่จะตามมาก็คือการกอบโกยผลประโยชน์ ทั้งเพื่อตนเองและพวกพ้องบริวาร และเพื่อเป็นการสะสมทุนไว้สำหรับการลงทุนทางการเมืองในครั้งต่อไป ธุรกิจการเมืองในลักษณะเช่นนี้ ย่อมเอื้อต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกระดับและในแทบทุกภาคส่วน เพราะนักการเมืองย่อมอาศัยทั้งกลไกในระบบราชการและเครือข่ายในภาคธุรกิจเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้ามาถอนทุน ผลเสียหายต่อบ้านเมืองและการพัฒนาประเทศย่อมมีมากมายมหาศาล ดังนั้น การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นได้อย่างยั่นยืนจะต้องเริ่มต้นที่การทำการเมืองให้สุจริต การสร้างการเมืองสุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นและปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย จำเป็นต้องกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนภาคประชาสังคม และภาคการเมือง เห็นความสำคัญของการเมืองที่ยึดหลักคุณธรรมและธรรมาภิบาล ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของการเมืองสุจริต การจะพัฒนาและเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่อยู่บนรากฐานของการเมืองสุจริต เกิดผลอย่างยั่งยืน จึงจำเป็นต้องนำหลักการดังกล่าวไปสู่ภาคปฏิบัติอย่างจริงจัง เฉพาะในส่วนของนักการเมืองนั้นจำเป็นต้องได้คนดี มีความรู้ความสามารถกล้าตัดสินใจ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยึดมั่นผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ เข้ามารับผิดชอบกิจการบ้านเมืองนอกจากฝ่ายการเมืองโดยตรง สถาบันการศึกษา ครอบครัว สถาบันทางสังคมก็ควรมีส่วนช่วยกันปลูกฝังทัศนคติและค่านิยมให้เด็กเยาวชนได้เข้าใจ ก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและประเทศชาติในอนาคต การที่ประชาชนชาวไทยทุกคนจะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้สามารถรอดพ้นจากปัญหา และอุปสรรคทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไปสู่จุดมุ่งหมายที่ทุกคนมุ่งหวังในเรื่องการเมืองสุจริตได้ ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันในการทำการเมืองให้สุจริต ยืนหยัดในความถูกต้อง และเคารพกฎหมายบ้านเมืองเพราะถ้าทุกภาคส่วนไม่ร่วมมือทำการเมืองให้สุจริตแล้ว บ้านเมืองก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาได้ แนวทางความร่วมมือในเรื่องดังกล่าว มีดังนี้
1. ประชาชนทุกภาคส่วนต้องรวมพลัง ต้องสร้างความสามัคคีปรองดองเพื่อให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว
2. ไม่ใช้อำนาจทางการบริหารเพื่อสร้างคะแนนเสียงทางการเมือง
3. น้อมนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ให้สอดคล้องกับการดำรงชีวิต
4. ร่วมมือกันในการขจัดการทุจริต ฉ้อฉล และอำนาจนอกระบบอย่างเด็ดขาด
5. ประชาชนทุกคนต้องเคารพ เชื่อมั่น และปฏิบัติตามกฎหมาย
6. การใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง พลเรือน ตำรวจ ทหารต้องเป็นกลางและไม่สนับสนุนมวลชนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเด็ดขาด