ประธานรัฐสภา ให้การรับรองนายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 27 - 31 ต.ค. 65
วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 เวลา 11.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 207 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรองนายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 27 - 31 ต.ค. 65 และเข้าร่วมการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 (APPF) โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง นายเกียรติ สิทธีอมร นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา และประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ลาว นายวิวัฒน์ มุ่งการดี ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การรับรอง
ประธานรัฐสภา กล่าวต้อนรับและแสดงความขอบคุณประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ที่ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 และเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ได้เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่ง 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) โดยสะพานแห่งนี้จะเชื่อมโยงระหว่างไทย - ลาว - เวียดนาม และสามารถเชื่อมต่อไปยังจีนได้ อันจะช่วยส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันในอนาคต ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
ด้านนายไซสมพอน พมวิหาน กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภาที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และนับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้หารือร่วมกันเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือในทุก ๆ มิติ พร้อมทั้งชื่นชมที่รัฐสภาไทยสามารถจัดการประชุม APPF ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ยังได้แสดงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จังหวัดหนองบัวลำภู ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 38 ราย ทั้งนี้ ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ได้เรียนเชิญประธานรัฐสภาเดินทางเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม
ภายหลังเสร็จสิ้นการสนทนา ประธานรัฐสภาและประธานสภาแห่งสปป.ลาว ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐสภาไทยและรัฐสภาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันนิติบัญญัติของทั้งสองฝ่าย
เครดิต : ข่าว โดยกลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร