เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2567 เวลา 11.30 นาฬิกา นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ในการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 45 นำคณะผู้แทนรัฐสภาไทยฯ เข้าพบปะหารือทวิภาคีกับสมาชิกรัฐสภาของนอร์เวย์ ในฐานะประเทศผู้สังเกตการณ์ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติของสปป.ลาว
 
นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ได้กล่าวแสดงความขอบคุณสมาชิกรัฐสภานอร์เวย์ที่ขอหารือทวิภาคีในวันนี้ด้วยความยินดียิ่ง พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าการพบปะหารือในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและนอร์เวย์  โดยเฉพาะในความคืบหน้าการลงนามเขตการค้าเสรีของภูมิภาคยุโรป (EFTA)  ในส่วนของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ของรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาส นอร์เวย์ ในด้านเศรษฐกิจมีการลงทุนของบริษัทเอกชนของทั้งสองฝ่าย อาทิ ด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ปุ๋ย ในส่วนของเนอร์เวย์ ส่วนไทยมีการลงทุนด้านผลิตชิ้นส่วนยานยนตร์  ในด้านการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ประมาณ 50,000 คนมาท่องเที่ยวที่ไทยตลอดทุกปี ส่วนฝ่ายไทยมีชุมชนไทยอยู่นอร์เวย์ ประมาณ 22,000 คน และ
ยังกล่าวถึง การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือน  การแบ่งปันข้อมูลข่าวสารด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมือโลกร้อน  ซึ่งรัฐสภากำลังมุ่งสู่green parliament
 
ทั้งนี้ นอร์เวย์ให้ความสำคัญกับอาเซียน โดยมีการแต่งตั้งทูตนอร์เวย์ประจำอาเซียน ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการหารือถึงการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเมียนมาร์ โดยประเทศไทยพร้อมส่งเสริมสันติภาพและการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม ยุติความรุนแรงและส่งเสริมการตั้งคณะกรรมาธิการของสมัชชารัฐสภาอาเซียนเพื่อจัดการสภานการณ์ในเมียนมาเพื่อหารือร่วมกัน
 
นอกจากนี้ นอร์เวย์ยังได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศที่มีความสำเร็จก้าวหน้าในการส่งเสริมเสรีภาพของกลุ่ม LGBTQ ด้วยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีกฎหมายสมรสเพศเดียวกัน
 
สุดท้าย นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานรัฐสภา ได้กล่าวขอบคุณและหวังว่าจะได้มีโอกาสพบปะหารือกับประธานสภาของนอเวย์เพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์ของสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
 
เครดิตข่าว : กลุ่มงานสมัชชารัฐสภาอาเซียน สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร