• หน้าหลัก
  • เล่าเรื่องรางวัลพานแว่นฟ้า
  • ภาษาไทย


เล่าเรื่องรางวัลพานแว่นฟ้า

     สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้จัดประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า มาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งเป็นปีที่รัฐสภาครบ 70 ปี โดยเห็นความสำคัญของวรรณกรรมว่ามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาการเมืองและสังคมให้เกิดความเข้มแข็ง และเพื่อเป็นการสร้างสรรค์งานวรรณกรรมการเมืองประดับไว้ในวงงานวรรณกรรมของไทย โดยในช่วงวาระเริ่มแรก ได้จัดประกวดเฉพาะประเภทเรื่องสั้นการเมือง ต่อมาจึงได้เพิ่มประเภทบทกวีการเมือง โดยได้รับความสนใจจากเยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนมากขึ้นเป็นลำดับตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของการดำเนินโครงการ รางวัลพานแว่นฟ้าที่ได้ทำหน้าที่เป็นกระจกที่สะท้อนภาพสังคมและการเมืองผ่านการบอกเล่าเรื่องราวในรูปแบบของตัวอักษรที่มีการเรียงร้อยถ้อยคำอย่างมีศิลปะ ทั้งยังทำหน้าที่ในการปลุกปลอบกำลังใจของผู้ที่แวะเวียนเข้ามาในเส้นทางนี้ ให้มีความรู้สึกเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตยและเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม โดยระหว่างปี 2545 – 2556 (ปีที่ 1 – 12) เป็นการจัดประกวดวรรณกรรม "การเมือง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพแสดงออกทางการเมือง โดยใช้ศิลปะในการเขียนถ่ายทอดความรู้สึก สะท้อนภาพการเมืองและสังคม หรือจินตนาการถึงการเมืองที่ต้องการในรูปแบบของเรื่องสั้นและบทกวี (บทกวีเริ่มประกวดในปี 2546 หรือในครั้งที่ 2) ในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบหนึ่งทศวรรษของรางวัลพานแว่นฟ้า คณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ได้มอบรางวัลพานแว่นฟ้าเกียรติยศให้กับผลงานของนักเขียนไทยในอดีตที่มีเนื้อหาสาระแสดงทัศนะหรือสะท้อนประเด็นเกี่ยวกับประชาธิปไตยในสังคมไทยในอดีตและปัจจุบันได้อย่างลุ่มลึก หลากหลาย งดงาม สมควรเผยแพร่ให้เป็นแบบอย่าง เพื่อปลุกเร้าหรือเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้รักประชาธิปไตยในสังคมไทยอีกด้วย ส่วนในปี 2557 ได้ยกเลิกการประกวดเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพทางการเมืองในขณะนั้น ต่อมาในปี 2558 จัดประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้าเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสครบ 120 ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกฯ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประเภทสารคดีและกวีนิพนธ์ และตั้งแต่ปี 2559 – ปัจจุบัน ได้จัดประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประเภทเรื่องสั้นและบทกวี โดยมีเนื้อหา (Theme) เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด

     ในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่รางวัลพานแว่นฟ้า เดินทางมาครบสองทศวรรษ เป็น 20 ปี ของวรรณกรรมการเมือง ที่ผ่านมาได้มีกรรมการผลัดเปลี่ยนเข้ามาทำหน้าที่แล้วมากกว่า 200 คน มีผลงานเข้าร่วมประกวดมากกว่าหนึ่งหมื่นผลงาน จึงนับได้ว่ารางวัลพานแว่นฟ้า เป็นสถาบันรางวัลวรรณกรรมการเมืองของไทย ที่ได้สืบสานงานวรรณกรรมการเมืองมายาวนาน ได้ส่งเสริมและยกย่องนักวรรณกรรม ให้สร้างสรรค์งานวรรณกรรมการเมืองให้คงอยู่คู่วงงานวรรณกรรมของไทย เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือกันมาถึง 2 ทศวรรษ และในปี 2565 เป็นการเดินทางก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ซึ่งยังคงทำหน้าที่สะท้อนภาพสังคมการเมืองไทย เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยไทยและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านงานวรรณกรรม ดังคำขวัญของรางวัลที่ว่า "รางวัลพานแว่นฟ้า สืบสาน สร้างสรรค์ วรรณกรรมการเมือง” ต่อไป

     "รางวัลพานแว่นฟ้า” เป็นรางวัลที่จัดขึ้น เพื่อมอบให้แก่ผู้ชนะในการประกวดวรรณกรรมเรื่องสั้นและบทกวีการเมือง โดยรัฐสภาจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพทางการเมืองผ่านทางงานเขียน รวมทั้งเพื่อสืบสานสร้างสรรค์วรรณกรรมการเมืองให้มีส่วนปลุกจิตสำนึกความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย

    "พานแว่นฟ้า” หมายถึง พานที่วางจัดซ้อนเป็นสองชั้น พานใบบนที่มีขนาดเล็กกว่าวางซ้อนพานใบล่างที่มีขนาดใหญ่กว่า ใช้สำหรับรองรับสิ่งที่จัดให้เป็นของที่มีศักดิ์สูง ในสถาบันศาสนาหรือพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ ยังเป็นที่รองรับรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองของประเทศ และเป็นสัญลักษณ์ของรัฐสภาไทย