พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านส่งเสริมสุขภาพระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
19 ธันวาคม 2567
วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2567 เวลา 15.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสัมมนา B 1-1 ชั้น B 1 อาคารรัฐสภา นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พร้อมด้วย พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านส่งเสริมสุขภาพระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยมี ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวรายงาน ในการนี้ นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิธี
โอกาสนี้ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง มอบนโยบายด้านสุขภาพแก่บุคลากรสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ใจความตอนหนึ่งว่า จุดเริ่มต้นของโครงการนี้เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และไม่ได้ดูแลแต่เฉพาะเรื่องของการออกกำลังกายเท่านั้น แต่การออกกำลังกายจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้สุขภาพแข็งแรง รวมทั้งพยายามให้ความรู้ต่อบุคลากรทั้งเรื่องการดำเนินชีวิต และเรื่องการบริโภค จึงเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา ภายใต้ร่มใหญ่คือการลดโรค NCDs (non-communicable diseases) เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีอยู่ในองค์กร โดยแบ่งบุคลากรออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นโรค NCDs กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยง และกลุ่มที่สาม คือ กลุ่มที่มีร่างกายปกติ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดกลุ่มที่เป็นโรค NCDs ลง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานขององค์กร ในส่วนของกลุ่มเสี่ยงมีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ลดอัตราความเสี่ยงไปอยู่ในกลุ่มสีเขียว ส่วนในกลุ่มสีเขียวจะพยามผลักดันให้สร้างวินัยในตนเองและสร้างนิสัยในการรักการออกกำลังกาย เชื่อว่าหลังจากออกกำลังกายไปแล้ว 7 วัน จะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัว และเป็นเรื่องที่ดีหากพยายามขับเคลื่อนและสร้างนิสัยที่ดีให้กับบุคลากรเรื่องการออกกำลังกาย และแน่นอนที่สุดในเรื่องอาหารการกิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้มีดำริให้ย้ายสถานที่ไปอยู่ที่ชั้น B 2 ซึ่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกำลังดำเนินการอยู่ ทุกวันเราอาจจะยังไม่ได้คำนึงถึงการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหรือมีผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่ เมื่อให้ความรู้แล้วก็เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องตระหนักว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สิ่งใดจะทำให้เกิดภาวะสะสมในร่างกาย และทำให้เกิดสุขภาพที่ไม่แข็งแรง นอกจากนี้ ในส่วนของสำนักบริการทางการแพทย์รัฐสภาได้พยายามที่เก็บสถิติบุคลากรทั้งหมด เพื่อจัดกลุ่มสุขภาพของบุคลากรเป็นสามกลุ่มข้างต้น ในการอำนวยความสะดวกและผลักดันให้กลุ่มคนที่เป็นโรค NCDs มีจำนวนลดลง และกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงกลับมาอยู่ในกลุ่มปกติให้ได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะยาวของรัฐสภา โดยในปีแรกเริ่มต้นด้วยโครงการสภาไร้พุง และหวังว่าในปีหน้าจะโครงการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขอขอบคุณกรมอนามัยที่เห็นถึงความสำคัญและเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง รวมทั้งเป็นตัวช่วยให้พวกเราประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่วางเอาไว้ ในเรื่องการให้ความรู้แก่บุคลากรอย่างทั่วถึง และที่สำคัญได้กรุณาส่งบุคลากรของกรมอนามัยมาช่วยในวันเริ่มต้นโครงการ หวังว่าในอนาคตจะมีโอกาสร่วมงานกันต่อไปเรื่อย ๆ และในปีหน้าจะขอเชิญบุคลากรของวุฒิสภามาร่วมกิจกรรมดังกล่าวและเริ่มนับหนึ่งไปด้วยกัน
พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง มอบนโยบาย ใจความตอนหนึ่งว่า มีคำกล่าวว่าสุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องออกกำลังกาย และฝากเรื่องสุขภาพในกลุ่มคนวัยทำงานเช่นพวกเรา ต้องดูแลทั้งเรื่องอาหารการกิน และต้องมีการขยับร่างกายเป็นประจำ สมัยที่รับราชการทหาร การดูแลเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากสมัยนี้โรคที่เป็นภัยเงียบเกิดขึ้นจำนวนมากและเกิดขึ้นใกล้ตัว บางคนคิดว่าตัวเองแข็งแรงมากจึงไม่ได้ดูแลตัวเอง แต่ภาวะที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องความเครียดจะทำให้เราประสบกับโรคที่ไม่ได้คาดคิด จึงฝากไปยังบุคลากรที่ทำงานอยู่ที่นี่ ซึ่งทำงานอยู่ในห้องแอร์ แต่อาจมีเชื้อโรคต่าง ๆ และฝุ่นแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ทันได้ป้องกัน และขอย้ำให้ระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร และหมั่นการออกกำลังกายเป็นประจำ
จากนั้น ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านส่งเสริมสุขภาพระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายแพทย์ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย ร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน สร้างความตระหนัก ความรอบรู้ในการดูแล ส่งเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค สามารถบอกต่อความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการ และการออกกำลังกาย อีกทั้ง ร่วมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องในวงงานรัฐสภา หันมาสนใจดูแล สุขภาพตนเองทั้งด้านการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายอย่างถูกต้องเหมาะสม ก่อให้เกิดการมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน